Naier เป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายกังหันลมมืออาชีพ โดยเชี่ยวชาญด้าน R&D และการผลิตเป็นเวลา 15 ปี
ข้อควรระวังที่ต้องปฏิบัติตามในระหว่างการใช้งานกังหันลมนั้นครอบคลุมถึงประเด็นต่อไปนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ากังหันลมจะทำงานได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเสถียร:
1. ความเร็วลมและสภาพอากาศ:
กังหันลมสามารถทำงานได้เฉพาะในช่วงความเร็วลมที่กำหนดเท่านั้น โดยทั่วไปคือ 3 ถึง 25 เมตรต่อวินาที
ความเร็วลมที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อการทำงานที่ปลอดภัยของอุปกรณ์ ผู้ปฏิบัติงานควรตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของความเร็วลมอย่างใกล้ชิด และปรับและควบคุมการทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าตามสถานการณ์จริง
ในสภาพอากาศเลวร้าย เช่น พายุฝนฟ้าคะนองและพายุ ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับมาตรการป้องกันฟ้าผ่าและน้ำแข็ง และหากจำเป็น ควรหยุดเครื่องจักรเพื่อหาที่กำบัง
2. การตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์:
การตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจได้ว่ากังหันลมจะทำงานได้อย่างปลอดภัย การตรวจสอบนี้รวมถึงการตรวจสอบการทำงานและประสิทธิภาพของชิ้นส่วนทางกลและไฟฟ้า ตลอดจนตรวจสอบว่าใบพัด เสา สายเคเบิล ฯลฯ ของกังหันลมเสียหายหรือสึกกร่อนหรือไม่
ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการตรวจสอบระดับการสึกหรอของชิ้นส่วนสำคัญ เช่น ใบพัด ตลับลูกปืน และเกียร์ เพื่อให้มั่นใจในความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของชิ้นส่วนเหล่านั้น
ตรวจสอบระบบระบายความร้อนของอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินไปหรือการเกิดไฟไหม้
3. การใช้งานอย่างปลอดภัย:
ผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมอย่างมืออาชีพและสวมใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยที่จำเป็น เช่น ถุงมือฉนวนและแว่นตานิรภัย
ในระหว่างการใช้งาน จำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรฐานอุปกรณ์และความปลอดภัย และปฏิบัติตามขั้นตอนและข้อกำหนดในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด
บุคคลที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญห้ามทำการซ่อมแซมหรือดัดแปลงอุปกรณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายหรืออันตรายด้านความปลอดภัย
4. การตรวจสอบระบบ:
โดยปกติแล้วกังหันลมจะถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบโดยรวม ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบโดยรวม
เนื้อหาการตรวจสอบประกอบด้วยความเสถียรและความน่าเชื่อถือของกำลังไฟฟ้าที่ส่งออก รวมถึงสถานะการทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและตัวควบคุม
5. ช่วงเวลาปลอดภัยและการป้องกัน:
ในการใช้งานกังหันลม ควรเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบุคลากรที่ยังไม่ได้รับการฝึกอบรมอย่างมืออาชีพ ควรอยู่ห่างจากชิ้นส่วนที่หมุนได้ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เช่น ใบพัดและโรเตอร์
ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่าเพื่อลดผลกระทบจากฟ้าผ่าต่ออุปกรณ์และวงจรไฟฟ้า
6. การจัดการกรณีพิเศษ:
หากพบสภาวะผิดปกติใดๆ ในกังหันลม เช่น เสียงดังผิดปกติ การสั่นสะเทือนผิดปกติ เป็นต้น ควรหยุดเครื่องทันทีเพื่อตรวจสอบ และควรติดต่อบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการบำรุงรักษา
ในสภาพอากาศที่มีน้ำแข็งหรือหิมะ ควรใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสม เช่น ระบบทำความร้อนหรืออุปกรณ์ละลายน้ำแข็ง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำแข็งเกาะใบพัดจนส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า
โดยสรุปแล้ว กังหันลมจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความเร็วลมและสภาพอากาศ การตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ การใช้งานอย่างปลอดภัย การเฝ้าระวังระบบ ช่วงเวลาปลอดภัยและการป้องกัน และการจัดการสถานการณ์พิเศษระหว่างการใช้งาน การปฏิบัติตามข้อควรระวังเหล่านี้อย่างเคร่งครัดเท่านั้นที่จะช่วยให้มั่นใจได้ว่ากังหันลมจะทำงานได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเสถียร